บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ACNE & SKIN



สิว | สาเหตุการเกิดสิวและวิธีรักษาสิว

สิว

การเกิดสิวเกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมาก และมีการอุดกลั้นทางเดินของไขมัน ทำให้สิวซึ่งอาจจะเป็นสิวหัวขาว หรือหัวดำก็ได้ หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียจะทำให้เกิดการอักเสบของสิว เช่นเป็นหนอง โดยส่วนใหญ่แล้วสิวจะขึ้นตามหน้า, หลัง หรือ หน้าอก สิวเกิดขึ้นเพราะผิวหนังมีการอุดตันอยู่ใต้รูขุมขน ซึ่งสิวนั้นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสาว ๆ เรามาดูสาเหตุของการเกิดสิว, วิธีป้องกันสิว, วิธีรักษาสิวและผลิตภัณฑ์รักษาสิว

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว

• ฮอร์โมน ร่างกายสร้างฮอร์โมน Androgen ทำให้มีการสร้างไขมันเพิ่ม โดยมากฮอร์โมนจะเริ่มสร้างเมื่ออายุ 11-14 ปีดังนั้นจึงพบสิวมากในวัยนี้และอาจจะอยู่ได้นานหลายปี
• การผลิตไขมันมากขึ้นร่วมกับเซลล์ผิวหนัง และเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดการอุดตันจนเกิดสิว
• มีการเปลี่ยนแปลงของรากผม รากผมเจริญเร็วเซลล์มีการแบ่งตัวเร็ว และมีเซลล์ที่ตายมาก จึงเกิดการอุดตันของต่อมไขมัน
• แบคทีเรียโดยเฉพาะชื่อ Propionibacterium acne จะทำให้เกิดการอักเสบของสิว
• กรรมพันธ์
• การรักษาความสะอาด ขันที่สะสมบนใบหน้าทำให้สิ่งสกปรกเกาะติดง่าย จึงเกิดการอุดตัน
• อาหารโดยทั่วไปไม่มีผลต่อการเกิดสิว แต่ก็มีความเชื่อกันว่าการรับประทานอาหารที่มัน หรือหวานจะเกิดสิวได้ง่าย
• อากาศ ขึ้นกับแต่ละคนบางคนเป็นมากในฤดูหนาว บางคนฤดูร้อน
• อารมณ์ คนที่อารมณ์ดีจะเกิดสิวน้อยกว่าคนที่อารมณ์เสีย
• การใช้เครื่องสำอางค์ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเกิดสิว การทำความสะอาดผิวควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำความสะอาดได้หมดจด ไม่ทิ้งเครื่องสำอางตกค้าง
• ครีมบำรุงผิวก็ต้องเลือกให้ถูกกับผิวหน้า คนที่ผิวมันก็หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีไขมันสูง
• การระคายผิว เช่น การล้างหน้าที่มีการถูมาก หรือการบีบสิว
• ยาบางชนิดทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น เช่น INH Iodides Bromide Steroid Testosterone Gonadotropine Anabolic steroid ยาคุมกำเนิด

เคล็ดลับและวิธีป้องกันกำรเกิดสิว

• การรักษาความสะอาด • การพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการนอนหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้เช่นกัน เนื่องจากร่างกายเรามีภูมิต้านทานลดลง ลดความเครียด สร้างอารมณ์ขบขัน ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ซึ่งความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว • ควรกินอาหารจำพวกผักสีเขียว ช่วยให้ร่างกายสามารถล้างสารพิษออกไปได้ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันสูง หรือ ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ๆ หลีกเลี่ยงการจับหัวสิว, บีบสิว

วิธีรักษาสิว

ดูแลรักษาความสะอาดให้ถูกวิธี จะช่วยลดการเกิดสิวได้มากเช่นกัน 
1. ควรทำความสะอาดผิวด้วยคลีนเซอร์อย่างอ่อน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ ตอนเช้าและตอนเย็น หรือ ก่อนนอน แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาความสะอาดผิวตัวไหนดี ให้ลองปรึกษาคุณหมอก่อนเลือกใช้ 
2. ล้างหน้าทุกครั้ง หลังทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมาก 
3. งดใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกขัด-ถู ทั้งหลาย รวมถึงสบู่ที่ค่อนข้างแรง เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้สิวหาย ยังอาจทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง หรือ ติดเชื้อ มากขึ้น กว่าเดิมได้อีกด้วย
4. เมื่อใช้คลีนเซอร์ทำความสะอาดหน้าแล้ว ต้องล้างออกให้หมดจด อย่าให้มีคราบตกค้าง
5. การล้างหน้าต้องล้างให้ขึ้นไปถึงตีนผม เพื่อล้างน้ำมันและคราบสกปรกที่อาจจะเป็นตัวก่อสิวออกไปให้หมด สาหรับคนที่มีผมมัน ควรสระผมทุกวัน เป็นต้น 
6. หากแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วย เพื่อให้ทำความสะอาดหมดจดมากขึ้น 
หนุกๆไว้วัยรุ่น 4 Step สิว Stop
ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่แนะนำ 4 ขั้นตอนการรักษาสิว กับ Dr.Somchai Acne

Step 1 ทา Dr.Somchai Acne Cream ทาทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนล้างหน้าเพื่อละลายและลดการอุดตันของสิว

Step 2 ล้าง Dr.Somchai Acne Froming Facial Cleanser มีส่วนผสมของ Salicylic Acid ช่วยลดการอุดตัน และป้องกันการเกิดสิว รับรองสิว Stop แน่นอน แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะนอกจากรักษาสิวแล้วยังช่วยบำรุงผิวอีกด้วย เพราะมีส่วนผสมของ Sodium PCA ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ผิวไม่ระคายเคือง และแห้งตึง

Step 3 เช็ด Dr.Somchai Acne Lotion หลังจากที่ล้างหน้าเสร็จแล้ว เช็ด ดร.สมชายแอคเน่ โลชั่น ให้ทั่วใบหน้าหรือบริเวณที่เป็นสิวโดยไม่ต้องล้างออก ดร.สมชายแอคเน่โลชั่นขวดนี้จะช่วยในเรื่องของการสมานผิวลดความมันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว

Step 4 แต้ม Dr.Somchai Acne Repair Cream ครีมลดเลือนรอยสิว ใช้แต้มเฉพาะบริเวณรอยดำ รอยสิวหลังจากสิวยุบ 
Step 4 แต้ม Dr.Somchai Acne Spot Touch Gel เจลแต้มสิวใช้แต้มบริเวณหัวสิวอับเสบใช้แต้มระหว่างวันจะช่วยลดการอับเสบของสิวหัวหนอง


วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

FOOD FOR REDUCE ACNE

สารอาหารรักษาสิว

  1. อาหารที่ให้แร่ธาตุสังกะสี ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต่อสู้กับแบคทีเรียและไวรัส, ลดการอักเสบ และการติดเชื้อของสิว ทั้งยังช่วยให้แผลที่เกิดจากสิวหายเร็วขึ้น โดยการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ และซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียไป

    จริงอยู่ว่าสังกะสีให้ผลบวกในการลดสิว แต่หากร่างกายรับสังกะสีในปริมาณที่มากกว่า 40 มิลลิกรัมต่อวัน(ในผู้ใหญ่) ก็สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้เช่นกัน อาหารที่มีธาตุสังกะสี คือ หอยนางรม, ปู, นม, โยเกิร์ต, ถั่ว, ชีส, ปลา, เมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวัน

  2. Milk and Cheese
  3. แร่ธาตุอย่าง วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินอี และ สารเบต้าแคโรทีนในผักผลไม้ แร่ธาตุในผักผลไม้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันและบรรเทาอาการเป็นสิวได้เป็นอย่างดี และคลอโรฟิลล์ในผักสีเขียวก็ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งกากใยอาหารจากพืชผักสีเขียว(Dietrary Fiber)ก็ช่วยป้องกันเรื่องท้องผูกได้อีกต่างหาก

    • วิตามินเอลดการอักเสบของสิวและลบรอยด่างดำจากสิว วิตามินเอมีมากใน ตำลึง, บร็อคโคลี, ยอดชะอม, คะน้า กะหล่ำเขียว, ผักโขม, ผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม เช่น ฟักทอง, มะม่วง, แคนตาลูป, มะละกอสุก และใน ตับ และนม

    • Fruits
    • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ดังนั้นจึงช่วยลดริ้วรอย และลดรอยด่างดำจากสิว วิตามินซีมีมากในผลไม้ เช่น ส้ม, มะเขือป้อม, สัปปะรด, ฝรั่ง, สตอร์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, กีวี, มะละกอ, มะม่วง, องุ่น, ลูกพลัมลูกพรุน หรือ ผักใบเขียว เช่น คะน้า, พริกแดง, พริกเขียว, ผักตระกูลกะหล่ำ, บร็อคโคลี, มะเขือเทศ, ผักโขมฯลฯ

    • วิตามินอีมีคุณสมบัติในการลบริ้วรอยจากสิว เราได้วิตามินอีจากน้ำมันที่ได้จากธัญพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันดอกคำฝอย และถั่วเปลือกแข็ง อย่าง อัลมอนต์ หรือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์

  4. แร่ธาตุโครเมียม จะกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงาน เพื่อช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้คงที่ ร่างกายต้องการโครเมียมในปริมาณที่น้อยมากคือ 50 – 200 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องหาจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

    โครเมียมจะถูกดูดซึมได้ดีเมื่อทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซี แต่ปริมาณที่สูงเกินไปของโครเมียมอาจจะไปรบกวนการดูดซึม สังกะสี (Zinc)เช่นกัน พบได้ใน ยีสต์ (Brewer’s yeast) เมล็ดธัญพืช และ ซีเรียล

  5. Bread and Egg
  6. ซีลีเนียมสามารถป้องกันกัมมันตภาพรังสีรวมทั้งโลหะหนักที่เป็นพิษ เช่น ปรอท เงิน แคดเมียม แทลเลียม (thallium) ไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าร่างกายและขับถ่ายออกได้เร็วขึ้น และเมื่อทำงานร่วมกับวิตามินอี ยังช่วยในการรักษาเนื้อเยื่อต่างๆและชลอการเสื่อมของเซลล์ หรือคุณสมบัติที่ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ลดการเกิดสิว

    อาหารที่มีซีลิเนียมมากที่สุดได้แก่ ไข่, เครื่องในสัตว์และเนื้อสัตว์, ปลา,หอย และข้าวที่ไม่ขัดสี, ซีเรียล และผลิตภัณฑ์นม นอกจากนี้ยังได้จากระเทียม เห็ด บร็อคโคลี หัวหอม มะเขือเทศ

  7. กรดไขมันโอเมก้า 3กรดไขมันที่ช่วยเรื่องหัวใจและการทำงานของสมอง, ลดการอักเสบในระดับเซลล์ และช่วยในการผลัดเซลล์ผิว จึงช่วยลดรอยด่างดำจากสิวให้จางลง มีมากในอาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอล, ปลาทูน่า, นอกจากนี้ก็มีในน้ำมันวอลนัท,น้ำมันคาโนลา

    แต่เพราะ Omega3 จะสลายตัวได้ง่ายในอุณหภูมิสูง เช่น การน้ำอาหารไปทอด ถ้าหากต้องการให้สารอาหารยังคงอยู่ในอาหาร ควรปรุงอาหารด้วยวิธีการต้ม แกงหรือ ยำ

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ACNE & HEALTH


Face Mapping
สิวบอกโรค

          สิวบอกโรค : โซนที่ 1 และโซนที่ 3 ถ้ามีปัญหาสิวบริเวณนี้ คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นอาจต้องดื่มน้ำมากขึ้นหรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

          สิวบอกโรค : โซนที่ 2  สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) การทานอาหารรสจัดหรือทานอาหารดึกเกินไป 

          
สิวบอกโรค : โซนที่ 4 และโซนที่ 10 ผิวบริเวณหูนี้เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการรับประทานเนื้อสัตว์ลง

          สิวบอกโรค : โซนที่ 5 และโซนที่ 9  บริเวณแก้มทั้งสองด้าน โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด

          สิวบอกโรค : โซนที่ 6 และโซนที่ 8 ตำแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคือง อาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร

          สิวบอกโรค : โซนที่ 7  ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจหมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด

          สิวบอกโรค : โซนที่ 11 และโซนที่ 13 หากผิวบริเวณนี้แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาของฟันกราม หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน

         สิวบอกโรค : โซนที่ 12 สิวเรื่อๆ บริเวณคางนี้ สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องลำไส้เล็ก ที่มีผลจากการรับประทานของเผ็ด

          สิวบอกโรค : โซนที่ 14 หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเครียดสูง


          นี่เป็นเพียงแค่รายละเอียดเพียงเล็กน้อยของการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าที่ทำให้รู้ได้ถึงสุขภาพภายในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เราทราบได้ว่าจะต้องดูแลบำรุงทั้งสุขภาพภายในและภายนอกอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีทั้งสีหน้า แววตาและผิวพรรณที่เป็นสุขได้แล้ว